Search

Apple AirTag แกดเจ็ตสุดเจ๋ง ที่จะทำให้ชีวิตของคนขี้ลืม “ง่ายขึ้น” - SpringNews

Apple AirTag ทำอะไรได้บ้าง?

หลายคนอาจไม่ได้สนใจอุปกรณ์นี้เนื่องจากเป็นอุปกรณ์เสริมที่อาจจะไกลตัว แต่จริงแล้วมีหลากหลายคนที่นำไปใช้และได้เห็นถึงประโยชน์ของอุปกรณ์นี้ที่ทำให้กิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันกลายเป็นเรื่องง่าย เช่น 

1.ติด AirTag ที่ปลอกคอสัตว์เลี้ยง (Pet Collar) ช่วยติดตามสัตว์เลี้ยงได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยการใส่ AirTag ไว้ที่ปลอกคอของสัตว์เลี้ยงเช่น สุนัข, แมว 

2.ติด AirTag ไว้ที่กระเป๋าเดินทาง , พวงกุญแจ , อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้เดินทาง จะช่วยให้สามารถติดตามสัมภาระได้ง่ายและสะดวก แค่เปิดแอปฯก็สามารถทราบได้ว่าของนั้นๆอยู่ที่ไหน และยังส่งเสียงเตือนได้อีกด้วย

3.ติด AirTag ไว้บนรถ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ หลายคนคงมีปัญหาลืมที่จอดรถ หรือลืมว่าตัวเองจอดรถไว้ที่ไหน ซึ่ง AirTag สามารถทำหน้าที่นี้ได้เป็นอย่างดี

4.ติด AirTag ไว้ที่อุปกรณ์ที่ใช้บ่อยๆ เช่น แว่นตา , ปากกา ซึ่งปัจจุบันได้มีหลากหลายบริษัททำเคสต่างๆเพื่อให้ AirTag สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5.ติด AirTag ไว้กับเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ การพลัดหลงเหมือนเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็ก หรือผู้สูงอายุที่ขี้หลงขี้ลืม หากติด AirTag ไว้จะช่วยเสริมความปลอดภัยได้ดีและสะดวกมากกับการใช้งาน

นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อยสำหรับการใช้ AirTag ซึ่งหลายคนอาจนำไปปรับใช้กับการใช้งานในรูปแบบอื่นๆได้อีกมากมาย 

Apple AirTag ราคาเท่าไร? 

ราคาค่าตัวของ AirTag นั้นอยู่ที่ 1,190 บาทต่ออัน และหากซื้อเป็นแพ็ค 4 จะอยู่ที่ราคา 3,990 บาท ซึ่งสามารถซื้อได้ที่ Apple Store , iStudio และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีเหล่านี้ได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้ชีวิตคนเราง่ายขึ้น และถ้าหากเราใช้เทคโนโลยีได้ถูกวิธีและเข้าใจการทำงานของมัน จะทำให้คุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายกับอุปกรณ์เหล่านี้ อนาคตเราอาจมีอุปกรณ์ช่วยติดตามที่ล้ำสมัยกว่านี้ ซึ่งในปัจจุบัน Apple AirTag ก็สามารถทำได้ดีเยี่ยมสำหรับความต้องการของคนในปัจจุบัน

ที่มา : apple.com

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( Apple AirTag แกดเจ็ตสุดเจ๋ง ที่จะทำให้ชีวิตของคนขี้ลืม “ง่ายขึ้น” - SpringNews )
https://ift.tt/KYQbuy3
แกดเจ็ต

Bagikan Berita Ini

0 Response to "Apple AirTag แกดเจ็ตสุดเจ๋ง ที่จะทำให้ชีวิตของคนขี้ลืม “ง่ายขึ้น” - SpringNews"

Post a Comment

Powered by Blogger.